คลายข้อสงสัย ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง เลือกอย่างไรให้ไม่สับสน และตอบโจทย์
คลายข้อสงสัย ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง
ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง เหมือนหรือต่างกันยังไง วันนี้มีคำตอบ
บทความก่อนหน้านี้ทางเราได้แนะนำในการเลือก “การตกแต่งผนัง” หรือ “7 วัสดุปูพื้น” เลือกยังไงให้เหมาะกับบ้านและคอนโดไปแล้ว
ส่วนในวันนี้ เราจะขอมาแนะนำส่วนที่บ้านแทบจะทุกหลังคอนโดทุกห้อง ต้องใช้งานกันอยู่ทุกวัน และหนีไม่พ้น นั้นก็คือ “พื้น” ไม่ว่าจะเป็นพื้นขัดมัน
พื้นโรงรถ หรือ พื้นประเภทหิน กระเบื้อง เซรามิก หินอ่อน เพราะเราต้องเดินอยู่บนพื้นบ้าน พื้นอาคาร คอนโด พื้นจึงเป็นส่วนสำคัญ
และเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นการเลือกวัสดุปูพื้นก็เป็นเรื่องสำคัญด้วยเช่นกัน
แต่วันนี้ทางเราจะขอมาพูดถึง พื้นกลุ่มนึง ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ที่ใช้สำหรับปูห้องนั่งเล่น ห้องนอน นั้นก็คือ “กลุ่มวัสดุที่ใช้ปูแทนไม้”
ที่ราคาเข้าถึงง่าย และ เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน นั้นก็คือ ลามิเนต กระเบื้องยาง และ พื้น Engineered Wood ค่ะ
เพื่อเป็นตัวเลือกในการช่วยให้คุณสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจ ที่หลายคนกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือกำลังดูเกี่ยวกับการปูพื้นบ้านหรือคอนโดใหม่
คงมีข้อสงสัยของการปูพื้น ถึง ความแตกต่างระหว่าง ลามิเนต กับ การปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง ว่าแตกต่างยังไง จะเลือกปูแบบไหนดี
วันนี้ทาง Fivestar Buildin จะมาสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจ เกี่ยวกับข้อแตกต่างระหว่าง พื้นลามิเนต กระเบื้องยาง และ พื้น Engineered Wood กันค่ะ
ก่อนอื่นเราขอแยกเป็นสองกลุ่ม สำหรับ “กลุ่มวัสดุที่ใช้ปูแทนไม้” ที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้
- กลุ่มที่ทำจากไม้
- กลุ่มที่ไม่ได้มีส่วนของไม้ผสม
1. กลุ่มที่ทำจากไม้
กลุ่มที่ทำจากไม้ จะมีส่วนผสมของเศษไม้ มาอัดขึ้นรูปตามกระบวนการเทคโนโลยีต่างๆ วันนี้เราขอยกตัวอย่างที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ได้แก่ พื้นลามิเนต และ Engineered Wood ที่จัดอยู่ในกลุ่ม ที่มีวัสดุที่ทำจากไม้
Cr. LUBO IVANKO/GETTY IMAGES
Laminate Wood
ลามิเนตคืออะไร ? มาจากอะไร ? คำยอดฮิตติดปาก ทำไมใครๆ ก็พูดถึง หรือ เรามักได้ยินกันบ่อยๆ ในเรื่องของการปูพื้น
ลามิเนต คือ แผ่นที่นำมาปูทับพื้นผิว ที่ได้ทำการเตรียมไว้แบบสำเร็จรูป ส่วนใหญ่ ลายจะเป็นลายไม้ และมีวัสดุผลิตมาจากไม้ที่เป็นเศษไม้ผงมาอัดกับกาว
แล้วมารวมกับวัสดุอื่นๆ นำมาอัดขึ้นรูปตามกระบวนการเทคโนโลยีต่างๆ ให้เป็นแผ่นบางๆ อย่าง 4 มม. / 8 มม. แล้วทำผิวหน้าแผ่นให้เหมือนไม้
มีสีและลายต่างๆ ให้เลือกมากมาย และยังให้ความรู้สึกสัมผัสเหมือนกับการปูไม้
Cr. inthenews
Cr. impressionfloors
Engineered Wood
บางท่านอาจจะเคยคุ้นหู มาบ้างแล้ว กับ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ หรือบางท่านก็อาจจะพึ่งเคยได้ยิน เพราะ ถ้าเทียบกับตัวลามิเนต การรับรู้และพูดถึงอาจจะน้อยกว่าค่ะ
Cr. austinfloorstore
ไม้เอ็นจิเนียร์ คือ ไม้ที่ถูกกระบวนการ การนำไม้มาอัดขึ้นมาเป็นชิ้นเหมือนกัน มาแปรรูปด้วยเทคโนโลยีด้านวิศวกรรม เป็นไม้ ที่ไม่ได้ทำจากวัสดุ PVC
แต่ทำมาจาก “ไม้จริง” ทำให้มีความคงทน ดีกว่าตัวลามิเนต และให้ความรู้สึกสมจริง ในด้านผิวสัมผัสที่เหมือนไม้จริงมากกว่าลามิเนต
ถูกทำสีมาอย่างเรียบร้อยและมีลวดลายชัดเจน สวยงาม ปูคล้ายๆ พื้นปาร์เก้ แต่มีความสวยกว่า และขั้นตอนไม่ซับซ้อน
ตกแต่งด้วยพื้น Engineered Wood
ไม้เอ็นจิเนียร์มีส่วนประกอบหลักด้วยกัน 3 ชั้น
Cr.Carolina Wood Floors
- ชั้นแรกเป็นพื้นผิวหน้าไม้จริง หนาประมาณ 3 มม.
- ชั้นที่สอง เป็นไส้ไม้ ทำจากไม้ยูคาลิปตัสหรือไม้ยางพารา หรืออาจจะเป็นไม้อื่นๆ นำมาเรียงๆ วางสลับกันไปมา
- ชั้นล่างสุดของแผ่น จะเป็นวัสดุที่เป็นไม้จริงเต็มแผ่น ประกบกับไส้ไม้แล้วนำไปอบด้วยการควบคุมอุณหภูมิ เพื่อให้ได้ลายไม้ที่เหมือนกับไม้จริงและสวยงาม
2.กลุ่มที่ไม่ได้มีส่วนของไม้ผสม
กลุ่มที่ไม่ใช้ไม้ผสม ที่ถูกพูดถึงและได้รับความนิยมที่นำมาใช้เปรียบเทียบกันได้ วันนี้ทางเราจะขอพูดถึงเป็นตัว “กระเบื้องยางลายไม้”
กระเบื้องยางลายไม้
กระเบื้องยางลายไม้ จัดเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ทำจากไม้ 100 % และแทบจะไม่มีส่วนผสมของไม้เลย ทำมาจากยาง อย่างเช่น ยางสังเคราะห์ ที่เป็นยางจริงๆ
แต่แค่มาทำผิวหน้าให้เหมือนลายไม้ เหมือนกับไม้เทียม แผ่นยาวๆ มีลายไม้ที่สวยให้เลือกมากมาย การปูและทำการติดตั้ง
สามารถปูแบบมีกาวหรือไม่มีกาวก็ได้ ปูเหมือนพวกไม้เทียม และลามิเนต
ข้อดี และ ข้อเสียในแต่ละเรื่อง ระหว่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง
ข้อดีข้อเสียของ ทั้งสองกลุ่ม สำหรับ “กลุ่มวัสดุที่ใช้ปูแทนไม้” โดยเราจะสรุปเป็นแต่ละหัวข้อสั้นๆ ให้คุณได้เข้าใจง่ายๆ ค่ะ
ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง ในส่วนของ การติดตั้ง
ในส่วนของการติดตั้งนั้น ติดตั้งง่าย ทั้งสามตัวเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น พื้นลามิเนต , Engineered Wood , กระเบื้องยาง การติดตั้ง สามารถเสร็จได้ภายในวันเดียว
(** โดย พื้นผิวพื้นที่ก่อนที่จะปู ต้องเรียบ และทำการปรับระดับและขัดมันไว้ให้เรียบร้อย ส่วนถ้าเป็นพื้นเก่า อย่าง บนไม้ กระเบื้อง, แกรนิต , อยากจะเปลี่ยน สามารถปูทับได้เลยค่ะ )
แต่ตรงนี้มีส่วนของข้อแตกต่างกันนิดหน่อย*
ถ้าเลือกปูเป็นกระเบื้องยาง ปูทับบนกระเบื้อง ต้องทำการแต่ง ตรงยาแนว ให้เรียบเสมอ ของกระเบื้องก่อน
ไม่งั้นอาจจะเกิดปัญหา ปูไม่เรียบสนิทได้ค่ะ อาจจะมีการกระเดิด
- ถ้าเลือกปูเป็นกระเบื้องยาง ปูทับบนกระเบื้อง ต้องทำการแต่ง ตรงยาแนว ให้เรียบเสมอ ของกระเบื้องก่อน ไม่งั้นอาจจะเกิดปัญหา
ปูไม่เรียบสนิทได้ค่ะ อาจจะมีการกระเดิด - แต่ถ้าเป็นกลุ่มลามิเนต หรือ Engineered Wood สามารถที่จะปูทับได้เลย เพราะตรงแผ่นที่ได้มา จะมีโฟมและไม้อัดรองมา
นี้คือส่วนของข้อแตกต่าง ในการปู แต่ยังไงพื้นที่จะทำการติดตั้ง ควรที่จะต้องถูกปรับให้เรียบก่อนเสมอ เพื่อให้ง่ายต่อการทำงาน ไม่จำเป็นต้องรื้อพื้นเก่า
สามารถปูทับได้เลยถ้าพื้นมีความเรียบ ของกลุ่มนี้
สามารถปูทับบนพื้นเดิมได้เลย
ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง ในส่วนของ การกันน้ำ
เป็นข้อสงสัยที่แทบจะทุกคนต้องตั้งคำถามแน่ๆ ในเรื่องของ การกันน้ำเรื่องของการกันน้ำนะคะ
โดยเราจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ทำจากไม้ 2.กลุ่มที่ไม่ได้มีส่วนของไม้ผสม
ข้อเสียอย่างแรก ของ กลุ่มที่ทำจากไม้
แน่นอนในเรื่องของน้ำ ไม้กับน้ำเป็นของที่ไม่ถูกกันอยู่แล้วค่ะ ถึงทำมาดียังไง แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ไม่ใช่ว่าจะโดนน้ำ ซึมและพังเลยทันที
เพราะตัวหน้าผิวได้ถูกเคลือบสารต่างๆเอาไว้ ในกรณีที่เผลอทำน้ำหกใส่พื้น แต่เราควรจะรีบเช็ดในทันที อย่าปล่อยแช่ทิ้งไว้นาน
ถ้าน้ำมีโอกาสซึมผ่านร่องเข้าไป ขังด้านล่าง เกิดความชื้นระหว่างไม้ ที่เจอกับน้ำ จะทำให้พื้นบวม ได้ค่ะ ถือว่าเป็นข้อเสียของกลุ่มที่ทำจากไม้
ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้มีส่วนผสมของไม้ หรือ กระเบื้องยาง
จะไม่เกิดปัญหาแบบนี้ค่ะ เพราะกลุ่มกระเบื้องยาง ทำมาจากยาง จะทนทานกับน้ำและความชื้นมากกว่ากลุ่มที่ทำมาจากไม้ค่ะ
ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง ในส่วนปัญหาของ ปลวก
ปัญหาหนักใจของทุกบ้าน คงหนีไม่พ้นเรื่องของปลวก เหมือนกับเป็นศัตรูตัวร้ายที่จ้องจะทำลายบ้านเราได้ทุกเมื่อค่ะ
อาหารของปลวก = ไม้ ตรงนี้จำไว้สั้นๆ ได้เลยค่ะ อะไรที่มีส่วนผสม ที่ทำมาจากไม้ แน่นอนที่จะเจอปัญหาของปลวกค่ะ
ส่วนกลุ่มกระเบื้องยางไม่มีส่วนผสมของไม้ 100% มีแค่พื้นผิวที่เป็นแค่ลวดลายไม้ ตรงนี้จะไม่มีปัญหาในเรื่องของปลวกค่ะ
เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจสำหรับบางท่านที่กังวลใจในเรื่องของปลวกค่ะ
ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง ส่วน ความรู้สึกที่สมจริง ในด้านผิวสัมผัสที่เหมือนไม้จริง
Engineered Wood Floor
- กลุ่มที่ทำจากไม้ อย่างเช่น ลามิเนต Engineered wood ให้ความรู้สึกสมจริงถึงความเป็นไม้มากกว่า โดยเฉพาะ พื้น Engineered wood
- กลุ่มที่ไม่ได้มีส่วนของไม้ผสม หรือ กระเบื้องยาง ความรู้สึกสัมผัสถึงความเป็นไม้ ไม่สมจริงเท่ากับกลุ่มที่ทำจากไม้
ในด้านของความรู้สึกผิวสัมผัส ตรงนี้กลุ่มที่ทำจากไม้ จะได้เปรียบในด้านความรู้สึก ที่เป็นไม้มากกว่า พวกกระเบื้องยาง
คนจะเลือกใช้พวก ลามิเนต Engineered wood เพราะให้ความรู้สึกถึงความเป็นไม้ได้มากกว่าค่ะ
ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง ในเรื่องของความทนทาน
พูดกันในเรื่องของความทนทาน ถ้าไล่ลำดับจากความทนทาน ตัวลามิเนต จะมีความทนทานน้อยที่สุด
ส่วน Engineered wood ทนการขีดข่วนได้น้อยกว่าลามิเนต เพราะด้านบนทำมาจากหน้าไม้จริง ส่วนไม้จริงจะทนการขีดข่วนได้น้อยกว่าลามิเนต
กลุ่มที่ทำมาจากไม้ ความทนทาน รอยขีดข่วน แรงกระแทก จะน้อยกว่า พวกกลุ่มที่ไม่ได้มีส่วนของไม้ผสม หรือ กระเบื้องยาง
ความแตกต่าง ลามิเนต กับ กระเบื้องยาง ในส่วนของ ราคา
มาถึงในส่วนของราคา ไล่จากตัวที่ถูกไปแพง
- ลามิเนตจะมีราคาถูกที่สุด จากที่ยกตัวอย่างมา ส่วนกลุ่ม ราคา ลามิเนต ที่ดีๆ จะเริ่มตั้งแต่ 400 ขึ้นไป
หรือบางที่อาจจะเริ่มตั้งแต่ 200- 300 ที่เห็นตามออนไลน์ ตรงนี้ตัวแผ่นลามิเนต อาจจะบางเกินไป - กระเบื้องยางแบบที่ปูกาว ราคาจะใกล้เคียงกับลามิเนต
- ส่วนกระเบื้องยางแบบคลิ๊กล็อค ที่ไม่ได้ใช้กาว เป็นชิ้น จะมีราคาสูงกว่าและมีคุณสมบัติที่ดีกว่า
และ Engineered wood จะแพงที่สุด มีราคาที่สูงกว่าเท่าตัว ใครที่อยากได้พื้นห้องสวยๆ เนี้ยบ ลายสวย งบไม่จำกัด
ตั้งงบไว้สูง เริ่มตั้งแต่ 1,000 บาท/ตรม. หรือไปถึง 3,000 – 4,000 บาท/ตรม. ขึ้นไป จากที่กล่าวมา
เราจะได้สัมผัสความรู้สึกของไม้ที่มากกว่า เพราะเป็นส่วนของไม้จริง ความสวยงามของลวดลายไม้ ที่ต้องแลกกับราคาที่สูงกว่าสองตัวที่พูดถึง
ข้อดีข้อเสียแต่ละตัวก็มี ความต่างกันจากวัสดุที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิต ตรงนี้เจ้าของบ้านต้องไปเลือกและศึกษาดูว่าเราตอบโจทย์และจะใช้กับห้องแบบไหน
อย่างเช่น เราจะเลือกปูกับห้องที่ไม่คิดว่าจะโดนน้ำบ่อย แค่ทำความสะอาด ถูพื้นธรรมดา การเลือกใช้กลุ่มที่เป็นไม้ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าเราปูในส่วนด้านล่างของบ้าน ที่ต้องเจอน้ำ บ่อยๆ อย่างเช่น ส่วนห้องนั่งเล่น มีคนเข้าคนออก มีเพื่อนมาสังสรรค์ หรือ บางบ้านมีเด็กเล็กวัยกำลังซน
มีน้ำหกบ่อยๆ ตรงนี้เราต้องคำนึงถึงเหตุผล ถ้าเกิดปล่อยทิ้งให้น้ำหกไว้นานๆ อาจจะมีปัญหากับพื้นได้ค่ะ ให้ดูจากลักษณะการใช้งานของบ้านเรา
แต่ข้อดีทั้งหมด ที่ทาง Fivestar Buildin ขอยกให้ “กลุ่มวัสดุที่ใช้ปูแทนไม้ อย่าง พื้นลามิเนต พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ กระเบื้องยาง” จะเป็นงานแห้งทั้งหมด
มันจะไม่เหมือน การปูพื้นปาร์เก้ แบบเก่าๆ ที่ต้องทิ้งไว้นาน เป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือน ขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน
พร้อมกับฝุ่นที่มากมาย ที่ตอนหลังไม่ได้รับความนิยมเหมือนกับการปูพื้นด้วย ลามิเนต กระเบื้องยาง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์
ที่สามารถทำจบได้ใน วันเดียว ยิ่งห้องขนาดเล็กๆ หรือ คอนโด ไม่เกิน 30-40 ตรม. ปูทีไม่ถึงวัน 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว
ทั้งหมดที่ทาง Fivestar Buildin ได้พูดมาของ การปูพื้น ด้วยลามิเนต กระเบื้องยาง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
สำหรับการปูพื้น ชั้นบนของบ้าน อย่างเช่นห้องนอน ห้องนั่งเล่น ที่ไม่โดนน้ำบ่อย และ ไม่มีการใช้งานหนักเหมือนชั้นล่าง
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เจ้าของบ้านต้องไปเลือกและศึกษาดูว่าแบบไหนที่ตอบโจทย์กับบ้านและการใช้งานของเราค่ะ